วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2563

คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในงานธุรกิจ

 คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติโดยจะคำนวณ เปรียบเทียบทางตรรกะกับข้อมูล และให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ลักษณะที่สำคัญหรือคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นที่รู้จัก มีดังนี้
1.ความเร็ว (Speed) 
2.หน่วยความจำ (Memory)
3.การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic & Automatic)
4.การเก็บรักษาข้อมูลหรือโปรแกรม (Retention)
5.ความถูกต้องและความเชื่อถือได้ (Accuracy & Reliability)

ระบบสารสนเทศ
          เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology : IT ) หรือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( Information and Communication : ICTs ) ก็คือเทคโนโลยีสองด้าหลัก ๆ  ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ผนวกเข้าด้วยกัน  เพื่อใช้ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้าง และเผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ

องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ





ที่มา mookda25391205.blogspot.com

           ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นอาจกล่าวได้ว่าประกอบขึ้นจากเทตโนโลยี สาขาหลัก คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม 
           
1.  เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
           คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งที่บอก  เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้  คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า ซอฟต์แวร์ ( Software )  
           ฮาร์ดแวร์  ประกอบด้วย ส่วน คือ
           อุปกรณ์รับข้อมูล ( Input )  เช่น แผงแป้นอักขระ ( KeyBoard ), เมาส์เครื่องตรวจกวาดภาพ    ( Scanner ) , จอภาพสัมผัส ( Touch Scareen ), ปากกาแสง ( Light Pen ), เครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็ก    ( Magnetic Strip Reader ), และเครื่องอ่านรหัสแท่ง ( Bar Code Reader )
           อุปกรณ์ส่งข้อมูล ( Output )  เช่น  จอภาพ ( Monitor ), เครื่องพิมพ์ ( Printer ), และเทอร์มินัล
           หน่วยประมวลผลกลาง  จะทำงานร่วมกับหน่วยความจำหลักในขณะคำนวณหรือประมวลผล  โดยปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์  โดยการดึงข้อมูลและคำสั่งที่เก็บไว้ในหน่วยความจำหลักมาประมวลผล
           หน่วยความจำหลัก  มีหน้าที่เก็บข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์รับข้อมูลเพื่อใช้ในการคำนวณ  และผลลัพธ์ของการคำนวณก่อนที่จะส่งไปยังอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล  รวมทั้งเก็บคำสั่งขณะกำลังประมวณผล
           หน่วยความจำสำรอง  ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมขณะยังไม่ได้ใช้งานเพื่อการใช้ในอนาคต
           ซอฟต์แวร์  เป็นองค์ประกอบี่สำคัญและจำเป็นมากในการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์  ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งออกได้เป็น  2  ประเภท  คือ
           ซอฟต์แวร์ระบบ  มีหน้าที่ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์และเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์  ซอฟต์แวร์ระบบสามารถแบ่งเป็น  3  ชนิด  คือ

1.  โปรแกรมระบบปฏิบัติการ  ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พ่วงต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์
2.โปรแกรมอรรถประโยชน์  ใช้้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอรืในขณะประมวลผลข้อมูลหรือในระหว่างที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
3.  โปรแกรมแปลภาษา  ใช้ในการแปลความหมายของคำสั่งที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ
           ซอฟต์แวร์ประยุกต์  เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อทำงานเฉพาะด้านตามความต้องการ  ซึ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์นี้สามารถแบ่งเป็น  3  ชนิด  คือ
1. ซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่องานทั่วไป  
2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน
3. ซอฟต์แวร์ประยุกต์อื่น ๆ 
2.  เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
           เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม  ใช้ในการติดต่อสื่อสารรับ/ส่งข้อมูลจากที่ไกล ๆ เป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกัน  ซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวก  รวดเร็ว  ถูกต้อง  ครบถ้วน  แบะทันกาล  ซึ่งรูปแบบของข้อมูลที่รับ/ส่งอาจเป็นตัวเลข ( Number Data )  ตัวอักษร ( Text )  ภาพ ( Image )  และเสียง ( Voice )
           นอกจากนี้  เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น  6  รูปแบบดังนี้ต่อไปนี้  คือ
1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
3.  เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล
4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล
5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร
6.เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
           ประการที่  1  เทคโนโลยีสารสนเทศ  ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ
           ประการที่  2  เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก  ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ  ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัตน์
           ประการที่  3  เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน  มีการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น  หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง  และเชื่อใโยงกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย
           ประการที่  4  เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัส  แบะสามารถตอบสนองความต้องการการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง
           ประการที่  5  เทคโนโลยีสารสนเทศำให้เกิดสภาพการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
           ประการที่  6  เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้นอีกทั้งยังทำให้วิถีการตัดสินใจ  หรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น

ประเภทของระบบสารสนเทศ
           ปัจจุบันจะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร  กับระบบสารสนเทศ  และเทคโนดลยีสารสนเทศชัดเจนมากขึ้น  และเนื่องจากการบริหารงานในองค์กรมีหลายระดับ  กิจกรรมขององค์กรแต่ละประเภทอาาจจะแตกต่างกัน  ดังนั้น  ระบบสารสนเทศของแต่ละองค์กรอาจแบ่งประเภทแตกต่างกันออกไป  ถ้าพิจารณาจำแนกระบบสารสนเทศตามการสนับสนุนระดับการทำงานในองค์กร  จะแบ่งระบบสารสนเทศได้เป็น  4  ประเภท  ดังนี้
1. ระบบสารสนเทศสำหรับระดับผู้ปฏิบัติงาน ( Operational-level systems )  ช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในส่วยปฏิบัติงานพื้นฐานและงานทำรายการต่าง ๆ องขององค์กร
2. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้ชำนาญการ ( Knowledge-level systems )  ระบบนี้สนับสนุนผู้ทำงานที่มีความรู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลวัตถุประสงค์หลักของระบบนี้ก็เพื่อช่วยให้มีการนำความรู้ใหม่มาใช้
3. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร ( Management-level systems )  เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตรวจสอบ  การควบคุม  กราตัดสินใจ  และการบริหารงานของผู้บริหารระดับกลางขององค์กร
4.  ระบบสารสนเทศระดับกลยุทธ์ ( Strategic-level systems )  เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยการบริหารระดับสูง  ช่วยในการสนับสนุนการวางแผนระยะยาว

คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในงานธุรกิจ

  คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติโดยจะคำนวณ เปรียบเทียบทางตรรกะกับข้อมูล และให้ผลลัพธ์ออกมาตามต...